ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ขอแค่ผลเสมอก็จะเข้าสู่รอบชิงฯ โดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พร้อมนำปิดสกอร์ เกมรับ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ที่นัดนี้จะใส่ไม่ยั้งหวังเก็บชัยและมีผลประตูรวมที่ดีกว่า ลุ้นระทึกในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง) คืนวันอังคารที่ 1 พ.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : PPTV HD และ beIN SPORTS, เวลา : 01.45 น.
ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง)
วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
เรอัล มาดริด (สเปน) - บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)
ถ่ายทอดสด : PPTV HD และ beIN SPORTS, เวลา : 01.45 น.
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ เรอัล มาดริด พาทีมบุกไปเบียดชนะ บาเยิร์น มิวนิค 2-1 ในนัดแรก ก่อนชนะ เลกาเนส ด้วยสกอร์เดียวกันในเกมลีกล่าสุด เป็นการชนะ 2 นัดติด แม้จะพักผู้เล่นสำคัญบางคนก็ตาม โดยหวังจะสร้างสถิติใหม่ในรายการนี้ด้วยการคว้าแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน
สภาพทีมเกมนี้ ซีดาน จะไม่มี อีสโก้ และ ดานี่ การ์บาฆาล ที่บาดเจ็บ ส่วน นาโช่ แฟร์นานเดซ ก็ยังไม่ฟิต ทำให้ต้องแก้ปัญหาขาดแคลนแบ็กขวาด้วยการให้ อาชราฟ ฮาคิมี่ ดาวรุ่งออกสตาร์ต
ส่วนแกนหลักอย่าง เกย์ลอร์ นาวาส, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, โทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช ที่ได้พัก ก็พร้อมคัมแบ็กทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะจัดเต็มสูบอย่างแน่นอน หลังจากบุกไปเอาชนะมาในนัดแรกได้ แต่ก็เตือนลูกทีมว่าห้ามประมาทเด็ดขาด เพราะสถานการณ์ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์
ด้าน จุ๊ปป์ ไฮย์เกส เทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค พาทีมแพ้ เรอัล มาดริด 1-2 ในเกมแรก ก่อนถล่ม แฟร้งค์เฟิร์ต 4-1 ในเกมลีกล่าสุด เป็นชัยชนะนัดที่ 4 ในรอบ 5 เกม โดยมีการพักแกนหลักหลายคนแล้วเปิดทางให้พวกดาวรุ่งได้ลงมาโชว์ฟอร์มบ้าง ซึ่งก็สร้างความประทับใจได้อย่างมาก
สภาพทีมเกมนี้ ไฮย์เกสจะไม่มี เยโรม บัวเต็ง และ อาร์เยน ร็อบเบน ที่เดี้ยงมาจากเกมแรก โดยรายหลังไม่ได้เดินทางร่วมทีมไปด้วย จึงน่าจะเป็นโอกาสของ นิคลาส ซือเล่ และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่ได้ลงสนามแทน
ส่วน อาร์ตูโร่ วีดาล (เข่า), คิงส์เล่ย์ โกมัน (ข้อเท้า) และ มานูเอล นอยเออร์ (เข่า) ที่เดี้ยงอยู่ก่อนแล้วยังชวดเหมือนเดิม
สำหรับพวกแกนหลักที่ได้พักอย่าง ฆาบี มาร์ติเนซ, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่, ฮาเมส โรดริเกซ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ต่างพร้อมคัมแบ็กทั้งหมด
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามตัวจริง
เรอัล มาดริด (4-3-1-2) : เกย์ลอร์ นาวาส - อาชราฟ ฮาคิมี่, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ - ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่, โทนี่ โครส - มาร์โก อาเซนซิโอ - แกเร็ธ เบล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
เทรนเนอร์ : ซีเนดีน ซีดาน
บาเยิร์น มิวนิค (4-3-3) : สเวน อูลไรช์ - โจชัว คิมมิช, นิคลาส ซือเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ราฟินญ่า - ติอาโก้ อัลกันตาร่า, ฆาบี มาร์ติเนซ, ฮาเมส โรดริเกซ - โธมัส มุลเลอร์, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ฟร้องค์ ริเบรี่
เทรนเนอร์ : จุ๊ปป์ ไฮย์นเกส
ผู้ตัดสิน : คูเน็ย์ต ชาเคียร์ (ตุรกี)
ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- เรอัล มาดริด กำลังลุ้นเข้าชิงปีที่สามติดต่อกันโดยกำสกอร์อเวย์โกล กลับมาจากมิวนิค 2-1 ด้วย ซึ่งในประวัติศาสตร์แชมเปี้ยนส์ ลีก มีเพียงแค่สองครั้งที่ทีมที่แพ้นัดแรกแล้วกลับมาชนะที่บ้านนัดที่สองรอบรองนั่นคือปี 2010/11 รอบ 16 ทีม อินเตอร์แพ้เสือใต้ 0-1 ที่บ้าน และไปชนะ 3-2 ที่มิวนิค ส่วนอีกครั้งคือ อาแจ็กซ์ แพ้ต่อ พานาธิไนกอส ปี 1-995-96
- นี่เป็นครั้งที่ 26 ที่ทั้งสองทีมเจอกันเป็นสถิติการแข่งขันของยูฟ่า โดยเป็นการเจอกันรอบรองหนที่ 7
- ทั้งสองทีมพบกันในซีซั่นก่อนรอบก่อนรองชนะเลิศ เป็นมาดริดที่ชนะได้และสุดท้ายกลายเป็นแชมป์
- นี่เป็นครั้งที่ 8 ติดต่อกันที่มาดริดมาถึงรอบรองชนะเลิศรายการนี้ ขณะที่ บาเยิร์นมาถึงรอบ 4 ทีม 6 ครั้งจาก 7 ซีซั่น
- นี่คือครั้งที่ 4 ที่ทั้งสองทีมได้เตะน็อกเอาต์เหย้า-เยือนใน 7 ซีซั่น มาดริด ชนะไป 2 และ บาเยิร์น ชนะ 1 ส่วนสถิติก่อนหน้านี้เจอกัน 11 หนในรอบน็อกเอาต์ ทั้งหมดเกิดขึ้นในยูโรเปี้ยน คัพ มาดริด ชนะ 6, เสือใต้ ชนะ 5 โดยทีมจากเยอรมันเตะรอบรองสถิติดีกว่าอยู่ที่ 4-2
- มาดริดชนะ 6 ครั้งหลังสุดที่เจอกับบาเยิร์น ยิงไป 15 และเสีย 5
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ชวดยิงประตูในนัดแรกแต่ยังคงมีสถิติยิงไปถึง 7 เม็ดจาก 4 หนที่เจอกับเสือใต้ และ 9 จาก 7 เกมในทุกรายการ
- มาดริดเตะรอบรองหนที่ 29 ในถ้วยยูโรเปี้ยน คัพ ชนะ 15, แพ้ 13 โดยพวกเขาชนะแค่ 3 จาก 8 หนรอบรองหลังสุด
- มาดริด ชนะในรอบรองสองหนหลังโดยก่อนหน้านี้แพ้ 5 จาก 6
- ทีมแชมป์ 12 สมัยอย่างราชันกลายเป็นทีมแรกที่ชนะในแชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 150 นัดตอนนี้ และนี่คือนัดที่ 250 ของพวกเขาในรายการนี้ซึ่งถือเป็นทีมแรกที่ทำได้ในสถิตินี้
- การปราชัยคารังต่อยูเว่ในรอบก่อนรองนัดสองถือเป็นครั้งที่ 30 ในรอบ 30 เกมเท่านั้นที่บ้านของพวกเขาโดยชนะ 21 เสมอ 6
- มาดริด ชนะ 34 จาก 41 เกมหลังแชมเปี้ยนส์ ลีกที่บ้านตัวเอง และและแพ้แค่สองเกมต่อ ชาลเก้ ปี 2014/15 ด้วยสกอร์ 3-4 รวมถึง รอบ 16 ทีมนัดสอง ต่อยูเว่ ปี 2014/15 แต่ทั้งสอหนก็ผ่านเข้ารอบอยู่ดี
- สถิติของมาดริดในบ้านเจอกับทีมจากบุนเดสลีกาอยู่ที่ ชนะ 25, เสมอ 5, แพ้ 3
- มาดริดแพ้แค่ครั้งเดียวจาก 33 เกมยุโรปที่พวกเขาชนะในเกมแรกก่อนนั่นคือพ่ายต่อ โอเดนเซ่ ปี 1994/95 ในยูฟ่า คัพ รอบ 3 โดยไปเยือนชนะ 3-2 แต่แพ้คารัง 0-2
- สถิติราชันในการดวลจุดโทษเกมยุโรปคือชนะ 2, แพ้ 2
- สถิติการดวลจุดโทษของเสือใต้ในเกมยุโรปคือชนะ 5, แพ้ 1
- บาเยิร์นแพ้รวดใน 3 หนหลังสุดรอบรองทั้งๆ ที่ก่อนหน้า 4 ครั้งชนะหมด
- สถิติของเสือใต้ในการเจอกับทีมจากสเปนแบบเตะสองนัดคือชนะ 10 แพ้ 10 หนล่าสุดคือผ่านเซบีย่ารอบก่อนรองปีนี้นั่นเอง
- สมถิติรวมของเสือใต้ในการเยือนทีมจากสเปนคือ ชนะ 7, เสมอ 5, แพ้ 15 โดยชัยชนะที่ เซบีย่า ยุติสถิติแพ้รวด 5 นัดที่แดนกระทิงด้วย
- ในอดีต จุ๊ปป์ ไฮย์เกส เคยเป็นโค้ช เรอัล มาดริด ในซีซั่น 1997/98 พาสโมสรคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 7 และเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 1966 โดยเขายังเคยคุมทีมในสเปนอย่าง บิลเบา, เตเนรีเฟ่ โดยสถิตการคุมทีมของเขาเจอกับ มาดริด อยู่ที่ ชนะ 5, เสมอ 4, แพ้ 7
